Category รู้เรื่องยา

ความดันโลหิต

รักษาโรค ความดันโลหิต

โรค ความดันโลหิต ก็ถือได้ว่าเป็นอาการหรือโรคที่ค้นพบในผู้ใหญ่ และเป็นโรคที่อันตรายมากๆอีก 1 โรคเพราะว่าจะนำไปสู่การทำงานของหัวใจหรือการทำงานของอวัยวะต่างๆที่เสื่อมสภาพ ซึ่งโรคความดันโลหิตจากการสำรวจและการประเมินก็คือจะพบอยู่ในช่วงอายุของคนที่มีช่วงอายุประมาณ 40-50 ปี ซึ่งโรคนี้ก็ถือได้ว่า เป็นโรคที่ต้องกินยาตลอดชีวิตและต้องกินยาไปเรื่อยๆและห้ามมีอาการตื่นตระหนกหรือว่าตกใจหรือความเครียดก็ทำให้อาการเหล่านี้หนักขึ้นได้

ความดันโลหิต นอกจากการกินยาก็ยังมีผลไม้หลายๆชนิด

 ความดันโลหิต

ผลไม้น้ำผลไม้ที่สามารถช่วยรักษาโรคความดันโลหิตให้แก่ท่านได้

วันนี้เราจะทำการแนะนำวิธีการรักษาโรคความดันโลหิตโดยเริ่มต้นจากการกินน้ำผลไม้ ก็น่าจะกินง่ายกว่ากันกินยาแล้วยังทำให้สุขภาพดีด้วยการรับประทานน้ำผลไม้สำหรับผลไม้ที่สามารถช่วยรักษาโรคความดันโลหิตได้อันดับแรกก็คือน้ำทับทิม น้ำทับทิมชื่อก็ถือได้ว่าเป็นความสวยงามความมงคลชื่อที่มีราคาแพงและสำหรับทับทิม

ความดันโลหิต

น้ำทับทิมชื่อก็ถือได้ว่าเป็นความสวยงามความมงคลชื่อที่มีราคาแพงและสำหรับทับทิม ในผลไม้ และในผลของทับทิมนั้นยังมีสารต่างๆที่ช่วยในเรื่องของความดันโลหิตได้อีกด้วยเพราะเป็นสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระมากมายคนที่เป็นโรคความดันโลหิตควรเลือกหันมารับประทานน้ำทับทิมจะช่วยให้โอกาสเป็นโรคหัวใจของท่านและหลอดเลือดหัวใจนั้นลดลงได้

สำหรับน้ำผลไม้ชนิดที่ 2 ที่ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตก็คือ ผุ้ป่วยควรรับประทานน้ำกระเจี๊ยบเพราะน้ำกระเจี๊ยบแดงถือได้ว่าเป็นสมุนไพรยอดนิยมที่ใครๆก็นำมาประกอบอาหารและยังสามารถคั้นเป็นน้ำผลไม้ได้อีกด้วย เจี๊ยบยิ่งทานแล้วยิ่งสดชื่นและยังช่วยเพิ่ม ความกระปรี้กระเป๋าในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน เพราะในน้ำกระเจี๊ยบนั้นยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความดันโลหิตได้ สำหรับน้ำผลไม้ชนิดสุดท้ายที่เราจะทำการแนะนำในวันนี้ก็คือน้ำมะพร้าวมะพร้าวถือได้ว่าเป็นผลไม้ที่สามารถนำมาทานแบบสดๆก็ได้คั้นเป็นน้ำก็ได้ปั่นเป็นน้ำก็ได้ ไปทำขนมก็ได้นำไปทำอาหารก็ได้ได้ทั้งผลแก่ผลสุกเลยก็ถือได้ว่ามีประโยชน์มากมาย ในน้ำมะพร้าวจะมีวิตามินซีและแมกนีเซียมสูงจะช่วยลดความดันในร่างกายและสามารถช่วยรักษาโรคความดันโลหิตได้ถึง 72เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

ติดตามเว็บไซต์ที่รวบรวมเรื่องราวดีๆด้านสุขภาพได้ที่นี่ก่อนใคร

โรคเกลื้อน

โรคเกลื้อน

โรคเกลื้อน โรคผิวหนัง ที่สามารถเกิดขึ้นกับทุกคนได้โรคเกลื้อน ข้อมูลในวันนี้เดี๋ยวเรามาดูกันว่าโรคผิวหนังที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อราอย่างโรคเกลื้อน

สามารถรักษาให้หายได้ไหม และเป็นโรคที่เกิดขึ้นกับทุกคนได้จริงๆนะคะไม่ได้ยกเว้นว่าจะต้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายถ้าเราไม่ดูแลตัวเองให้ดี หรือเรียกได้ว่าการใช้ชีวิตประจำวันที่อาบน้ำวันละครั้งหรือไปโดนเชื้อราต่างๆมาก็จะทำให้เกิดโรคเกลื้อนได้เพราะฉะนั้นเราควรมีวิธีการดูแลตัวเอง และดูว่าโรคเกลื้อนสามารถเกิด ขึ้นจากอะไรได้บ้าง

อาการลักษณะและสาเหตุที่ทำให้เกิด โรคเกลื้อน

โรคเกลื้อน

สำหรับอาการของเกลื้อน ก็คือเป็นลักษณะไม่มีอาการจะเป็นผื่น ปุ๋ยตามรูขุมขนของเรามากกว่าจะเป็นสีจางๆบางคนอาจจะมีสีเข้มขึ้นอยู่กับสีผิวของแต่ละคน โดยส่วนใหญ่แล้วโรคเกลื้อนจะเกิดตรงต่อมไขมัน เช่นบริเวณหน้าอกบริเวณหลัง บริเวณขาแขนของเราหรือเรียกได้ว่าจะเป็นบริเวณที่มีเหงื่อออกจะทำให้เกิดโรคเกลื้อนและเกิดผิวหนังอักเสบในส่วนนี้ได้ เราสามารถดูได้ด้วยตาของเราเองว่าเราเป็นหรือไม่วันนี้เราก็มีภาพมาประกอบเล็กน้อย สำหรับคนที่เป็นคลื่นเคลื่อนนั้นพบได้ทั้งในกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มวัยสาวกลุ่มผู้ใหญ่กลุ่มเด็กพบได้หมดเลย ใหญ่แล้วอาจจะพร้อมสำหรับวัยที่ทำงานหนักหรือต่อมไขมันทำงานหนักบางคนก็ลักษณะผิวก็คือเป็นคนที่มีผิวมัน และมีความต้านทานเชื้อต่ำกว่าคนอื่นจึงทำให้เกิดโรคเกลื้อนได้ ก็สามารถรักษาได้นะคะ เดี๋ยวเรามาดูวิธีการรักษาหรือว่าถ้าสมมุติว่าเราเป็นจริงๆไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิงคุณผู้ชายจะต้องรักษาโรคนี้ยังไง

โรคเกลื้อน

วิธีการดูแลและรักษาโรคเกลื้อน สำหรับคนที่เป็นมาแล้ว จะเป็นจากพันธุกรรมหรือเป็นจากการดูแลตัวเองหรือเป็นจากการทำงานหนักผิวของเราเป็นผิวมันทำให้เกิดโรคเลื่อนได้ง่าย เชื้อราเจริญเติบโตเราก็สามารถดูแลตัวเองได้รักษาตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ขั้นตอนแรกก็คือพยายามใช้ยากดการเจริญเติบโตของเชื้อเกลื้อนเชื้อรา สามารถหาซื้อที่ร้านขายยาและสอบถามเภสัชได้ ไม่ว่าจะเป็นยาทาหรือยาชนิดไหนก็สามารถใช้ได้ ต้องขอคำแนะนำจากเภสัชให้เป็นคนแนะนำ ใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อรา ถ้าเป็นประจำหรือทาเป็นสัปดาห์ก็แล้วแต่ว่าคำแนะนำของยาต้องทานแบบไหน บางคนอาจจะถึงขั้น รับประทานยาฆ่าเชื้อราก็ได้แต่ต้องให้แพทย์เป็นคนแนะนำนะคะเพราะว่าเป็นยากิน การรักษาเราสามารถรักษาด้วยตัวของเราเองได้ก็คือการดูแลสุขภาพร่างกายความสะอาดอนามัยของร่างกาย ช่วยให้เราห่างไกลโรคเกลื้อนได้และนี่ก็คือ การดูแลตัวเองสาเหตุของการเป็นโรคเกลื้อน บทความสุขภาพวันนี้

โรคเกลื้อน

ติดตามเว็บไซต์ที่รวบรวมเรื่องราวดีๆด้านสุขภาพได้ที่นี่ก่อนใคร

หัวแตก

วิธีการดูแลเบื้องต้นสำหรับคนที่กำลัง หัวแตก หรือเกิดอุบัติเหตุ

หัวแตก อุบัติเหตุ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นเพราะฉะนั้นเราก็ต้องดูแลตัวเองหรือว่ามีความรู้รอบตัวในการดูแลตัวเองเบื้องต้น กับคนรอบข้างของเรายิ่งคนที่มีลูกเด็กเล็กแดงวิ่งซนตามประสาก็ต้องศึกษาวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับ กรณีอุบัติเหตุที่ทำให้ หัวแตกได้ว่าการดูแลปฐมพยาบาลเบื้องต้นต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะห้ามเลือดเพราะก็ถือได้ว่าเป็นข้อมูลที่มีความจำเป็นสำหรับหลายๆคน การที่หัวแตกหรือศีรษะแตกนั้นก็สามารถแบ่งได้เป็น 4 ชนิดใหญ่ๆจากความรุนแรง สำหรับกรณีของการดูแลและปฐมพยาบาลเบื้องต้นมีวิธีการดูแลดังต่อไปนี้

วิธีการดูแลตัวเองเมื่อ หัวแตก ต้องดูแลอย่างไรบ้าง

หัวแตก

การดูแลตัวเองหรือการปฐมพยาบาลสำหรับผู้ที่หัวแตกก็คือเมื่อเราพบอุบัติเหตุนี้เกิดขึ้น เราจะต้องทำการตรวจการหายใจก่อนถ้าเราตรวจเป็นเช็คก็ได้ว่าคนที่หัวแตกมีสติไหมสามารถพูดจาได้ไหมการหัวแตกที่เกิดขึ้นเหตุที่เกิดขึ้นรุนแรงมากขนาดไหน ถ้าในกรณีของการหัวแตกที่ค่อนข้างรุนแรงเราต้องห้ามขยับตัวผู้ป่วยโดยเด็ดขาดเพราะว่าถ้าเกิดเราเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอาจจะทำให้บริเวณคอเกิดการขยับเขยื้อนได้เพราะฉะนั้นก็ต้องใช้ความระมัดระวังและดูความรุนแรงที่เกิดขึ้น

สิ่งที่มีความจำเป็นที่จะต้องทำก็คือสมมุติว่ามีของที่อยู่ที่หัวที่เป็นสาเหตุที่ทำให้หัวแตกหรือเศษอะไรก็ตามแต่พยายามอย่าดึงออกเพราะว่าจะทำให้เลือดไหลไม่หยุดได้ แล้วในกรณีที่เราไม่ได้มีความรู้ไม่ได้เป็นพยาบาลไม่ได้เป็นแพทย์ห้ามให้ยาอะไรกับผู้ป่วยในการกินเพราะว่าต้องได้รับคำแนะนำจากผู้ที่มีความรู้เท่านั้น

หัวแตก

สมมติว่าในกรณีมีเลือดไหลออกจากแผลและอาจจะไหลเยอะเราก็ต้องหาผ้าที่สะอาดประคบบริเวณแผลเพื่อควบคุมการไหลของเลือดก็ได้แต่ถ้าเลือดยังไหลไม่หยุดก็อาจจะต้องมีการกดเพื่อหยุดเลือด ซึ่งก็ต้องดูเป็นกรณีกรณีไปสมมุติกรณีของผู้ป่วยที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุหนักหัวฟาดพื้น  มีอาการอื่นร่วมด้วย ก็จะต้องปฐมพยาบาลเบื้องต้นต่างๆ

หัวแตก

ถ้าเป็นลักษณะของอาการอาเจียนก็ต้องพยุงเพื่อให้ผู้ป่วยนั่งเพื่อไม่ให้สำลักอาเจียน และนี่ก็คือการดูแลปฐมพยาบาล หัวแตกเบื้องต้นซึ่งกรณีของการอุบัติเหตุเล็กๆไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมากก็ควรไปพบแพทย์นะคะเพราะเราไม่รู้เลยว่ามีการกระทบกระเทือนภายในไหม แพทย์เพื่อตรวจความแน่ใจน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและนี่ก็คือข้อมูลสำหรับการดูแลปฐมพยาบาลผู้ป่วยเบื้องต้นสำหรับคนที่มีอาการหัวแตกหรือเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น

ติดตามเว็บไซต์ที่รวบรวมเรื่องราวดีๆด้านสุขภาพได้ที่นี่ก่อนใคร